หนังMusical

หนังMusical รวมลิส “หนัง Musical” เพลงไพเราะ เนื้อเรื่องดีถ้าเกิดพูดถึง “หนังมิวสิคัล” หลายๆคน​น่าจะคิดถึงหนังที่มีเพลงน่าฟังๆในหนัง แต่ที่จริงแล้ว คำจำกัดความของคำว่า “Musical Movie” เจาะจงกว่านั้น หนังมิวสิคัลเป็นการที่ใส่เพลงประกอบให้เข้ากับเหตุการณ์นั้นๆของหนังและก็เรื่องราวที่ต้องการจะสื่อ พูดง่ายๆเป็น หนังที่ใช้เพลงแทนคำบอกเล่าของนักแสดงอีกทั้งเรื่องหรือในช่วงใดช่วงหนึ่ง ดังนั้น

ลิสหนังที่เราเอามาฝากกัน วันนี้ จะเลือกเฉพาะที่ตรงกับคำอธิบายศัพท์ของคำว่า “Musical” แค่นั้น ไม่รวมถึงหนังแข่งขันขับร้อง ชิงชัยความสามารทางดนตรี หนังเขียนเพลง หนังที่เกี่ยวกับวงดนตรี แต่ยังไงก็ตาม “รายนามหนังที่เราคัดสรรมาให้” หนัง Musical ยืนยันว่าจะต้องถูกใจคนชอบดูหนัง Musical

จนกระทั่งทำให้คุณจำเป็นต้องคลั่งใคล้และหลงใหลไปกับเสียงดนตรีเพราะว่าๆกับการดำเนินเรื่องที่น่าสนใจอย่างแน่แท้ ละครเวทีที่ถูกกล่าวถึงกันมากที่สุดในยุคนี้อย่าง Hamilton ถูกช่อง Disney+ ดึงมาลงสตรีม ทำให้เราได้ดูละครเวทีที่ส่งตรงจากกระดานเวย์ โดยหัวข้อนี้จะเสนอเรื่องราวของ Alexander Hamilton หนึ่งในผู้จัดตั้งสหรัฐฯ…….

หนังMusical

ภาพยนตร์แนว Musical

ที่ครอบครองรางวัลภาพยนตร์ดีที่สุดของออสการ์ Sound of Music (Disney +) หนังมิวสิคัลในตำนานกับเพลงคุ้นหูอย่าง “Doe, a deer, a female deer Ray, a drop of golden sun…” หนังMusical  เรื่องราวของ มาเรีย หญิงสาวผู้รักในเสียงเพลงแล้วก็ได้มาสมัครบวชเป็นแม่ชีในแอบบีย์​แห่งหนึ่งของเมืองซาลซ์บูร์ก สมาพันธ์รัฐออสเตรีย​..

THE SOUND OF MUSIC (1965) : มนต์รักเพลงสรวงสวรรค์

เรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากความเป็นจริงข องครอบครัวภัยสงครามจากพวกท้องนาซี ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเรีย (จูลี แอนดรูส์) แม่ชีสาวที่ออกมาจากคอนแวนต์ มาดูแลลูกๆทั้งยัง 7 คน ของผู้กองฟอนแทรปป์ (คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์) พ่อม่ายนายทหารแห่งกองทัพออสเตรีย ผู้ซึ่งปกครองลูกๆอย่างเคร่งครัดเจ้าระเบียบ

เด็กๆไม่ได้รับอนุญาตให้ฟังเพลงหรือเล่นสนุกสนาน การมาของมาเรียนำความสดใสเบิกบานและก็เสียงเพลงมาสู่บ้านที่เคยมีแต่ว่าความตึงเครียด สร้างความตรึงใจให้ผู้กองจนกระทั่งเป็นความรัก แล้วก็สุดท้ายทั้งคู่ก็แต่งงานกัน แต่ระหว่างเดินทางกลับจากฮันนิมูน ผู้กองฟอนแทรปป์ถูกเรียกตัวกลับเข้ากองทัพเรือโดยเร็วเวทีรางวัลภาพยนตร์ Academy Awards หรือ Oscars ได้ทำการประกาศชื่อรางวัลภาพยนตร์ดีเยี่ยมที่สุดมากกว่า 90 เรื่องด้วยกันเข้าไปแล้ว

และก็มีกว่า 10 เรื่องร่วมกัน ที่เป็นภาพยนตร์แนว ‘Musical’หรือ ‘หนังละครเวที’ ที่ถูกเอามาทำในลักษณะของภาพยนตร์เพื่อต่อยอดในด้านของโปรดักชั่นรวมทั้งเพิ่มบทต่างๆที่นอกจากข้อจำกัดของละครเวที โดยยังคงยึดเอาหลักของความเป็นละครเวทีด้วยการอาจจะบทเพลงเพลง-เต้นรำ เพื่อสื่อความหมายและความรู้สึกของนักแสดงให้ผู้ชมอาจเอาไว้อย่างเช่นเดิมและก็ใช้เทคนิคสื่อสารกับผู้ชมในรูปแบบต่างๆทั้งสิ้นนี้

ล้วนทำให้ภาพยนตร์แนว Musical น่าจำซึ่งบทโดยมากแล้วจะเป็นบทภาพยนตร์ดัดแปลงแก้ไขและในยุค 1950s-60s นั้นถือเป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองของภาพยนตร์แนว Musical มากที่สุดเมื่อจะให้ชี้แนะภาพยนตร์แนว หนังMusical ที่น่าสนใจหามารับดู มันก็มีล้นหลามซะอย่างมากก็เลยขอเสนอแนะภาพยนตร์แนว Musical ทั้งยัง 10 เรื่องในประวัติศาสตร์ของแวดวงภาพยนตร์อเมริกาที่สามารถครอบครองรางวัลภาพยนตร์ดีที่สุดของเวที Oscars ในปีนั้นๆไปครอบครองได้เสร็จ

West Side Story (1961)

‘West Side Story’ กวาดไป 10 รางวัลออสการ์ หลุดเพียงบทดัดแปลงแก้ไขดีเพียงแค่นั้นจากการเข้าชิง 11 รางวัลออสการ์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่บรรลุผลสำเร็จอย่างยิ่งโดยเป็นเรื่องราวของกลุ่มอริสองกลุ่มที่ขัดแย้งระหว่างกรุ๊ปฝรั่งผิวขาวเจ้าถิ่นเดิม และกลุ่มผู้อพยพชาวเปอร์โตริโก ณ ฝั่งตะวันตกของนิวยอร์ก ซิตี้รวมทั้งในระหว่างที่ทั้งสองฝั่งกำลังปะทุกันนั้น ‘โทนี่’ คนฝั่งของฝรั่งผิวขาว ดันไปหลงรักกับ ‘มาเรีย’น้องสาวของหัวหน้าแก๊งเปอร์โตริโก ก่อนจะเกิดเหตุราวใหญ่มหึมา…โดย ‘West Side Story’ นั้นทำการดัดแปลงแก้ไขบทมาจากงานนิพนธ์มีชื่อเสียง ‘Romeo and Juliet’

รวมหนัง Musical ร่วมยุค

กับเพลงที่ใครๆก็ร้องตามได้เราบางครั้งก็อาจจะเคยชินกับหนังมิวสิคัลจำพวกที่ใช้วงดนตรีออเคสตร้าเล่นเพลงหรือมีการขับขานกันอย่างไพเราะเพราะพริ้ง ด้วยเหตุว่าหนังมิวสิคัลจำนวนมากมีต้นกำเนิดมาจากละครเพลงบรอดเวย์  musical movie ไม่ก็เป็นหนังเล่ายุคเก่าที่ผู้คนยังรู้จักแต่เพลงคลาสสิก โอเปร่า หรือมีเครื่องดนตรีคลาสสิกร่วมเล่นเพลง (‘Les Miserables’, ‘My Fair Lady’, ‘The Phantom of the Opera’)

แม้กระนั้นสมัยปัจจุบันมีผู้กำกับบางคนที่เล็งเห็นว่าน่าจะเอาศาสตร์การเล่าเรื่องในรูปภาพยนตร์ร่วมสมัยมารวมกับความเป็นมิวสิคัลแบบที่พวกเรามองเห็นได้ใน ‘Wizard of Oz’, ‘Singing in the Rain’ หรือ ‘The Sound of Music’ จะไม่ใช่เพลงที่ร้องเล่นเต้นระบำด้วยเพลงแจ๊สหรือเพลงคลาสสิก แต่ว่าอาจเป็นเพลงร็อกแอนด์โรล นิวเวฟ หรือป๊อปแจ่มใสแบบที่เด็กรุ่นใหม่ร้องตามได้ มาดูกันดีกว่าว่ามีหนังเรื่องไหนบ้าง

Across the Universe

เว้นเสียแต่ชื่อหนังเองแล้ว ชื่อของตัวละครหลายๆตัวในเรื่องนี้ก็มาจากเพลงของ The Beatles แม้แต่สถานที่ เรื่องราวต่างๆก็ยังแอบซ่อนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงอยู่เนืองๆแถมมีตัวละครที่อ้างอิงถึงไอคอนของยุคนั้นทั้ง Jimi Hendrix หรือ Janis Joplin รวมทั้งที่ต้องมีให้ได้เลยคือในพาร์ตที่เป็นมิวสิคัลก็มีเพลงของ The Beatles อีกกว่า 30 เพลงที่ถูกนำมา re-arrange เพื่อใช้ดำเนินเรื่อง แถมยังคัดเลือกมาเล่าโยงแต่ละฉากได้อย่างประจวบเหมาะไปหมดเรื่องราววิพากษ์สังคมอเมริกาในยุค 60s ที่เล่าผ่านความสัมพันธ์วัยรุ่น จู๊ด (มาจากเพลง Hey Jude)

เด็กหนุ่มจากหงส์แดง (ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ The Beatles) เร่ร่อนมาอเมริการวมทั้งได้พบกับ ลูซี่ (มาจากเพลง Lucy in the Sky with Diamondห) สาวอเมริกันที่ได้รับความระบมจากการศึกเวียดนามในยุคนั้น เมื่อดนตรีสานสัมพันธ์ให้มิตรสหาย มิตรภาพ รวมทั้งความรักก่อตัวขึ้นท่ามกลางความขัดแย้ง พวกเขาก็เลยตกลงใจเข้าสู่กรรมวิธีต้านทานการสู้รบ ภาพยนตร์ ดนตรี แต่ว่าก็ไม่วายที่วันนึงพวกเขาก็ต้องแยกจากกันด้วยความไม่เข้าใจ แต่ว่าในที่สุดแล้วจู๊ดก็ตัดสินใจกลับมาหาลูซี่อีกทีอาจจะเป็นด้วยเหตุว่า All You Need Is Love

สำหรับเพลงที่เราถูกใจในหนังประเด็นนี้เห็นจะไม่พ้น Strawberry Field Forever, Because, I Am the Walrus (ที่มี Bono วง U2 มาเล่นด้วย) อีกอย่างที่ไม่อยากที่จะให้พลาดประเด็นนี้เพราะหนังสวยมากมายจริงๆรวมทั้งนี่เป็นฉากในดวงใจของพวกเรา

God Help the Girl

ภาพยนตร์ฉากหน้าสวย อีกทั้งผู้แสดงเค้าหน้าสวย เพลงน่ารักน่าเอ็นดู คอสตูมน่ารัก แต่ว่าเนื้อหามิได้สดใสแบบทอฟฟี่ที่ฉาบไว้ โดย Stuart Murdoch ฟรอนต์แมนของวง Bell & Sebastian มาเขียนบทรวมทั้งดูแลเอง หนังMusical แถมยังใช้เพลงของวงตนเองมาช่วยเล่าของวัยรุ่นในกลาสโกว ยกตัวอย่างเช่น อีฟ เจมส์ รวมทั้งแคสซี สวมบทโดย Emily Brown, Olly Alexander แห่งวง Years &  Years และก็ Hannah Murray ที่เลื่องลือจากซีรีส์วัยว้าวุ่นอังกฤษโด่งดัง Skinsพวกเราจะได้ตามติดชีวิตของพวกเขาทั้งยังสามสำหรับเพื่อการจับกลุ่มดนตรีที่เมืองที่นี้ แต่ช่วงเวลาเดียวกัน

เราจะได้พบความเว้าแหว่งในชีวิตของนักแสดงที่เบาๆคายออกมา อย่าง อีฟ ที่ที่มาพวกเราก็ได้เห็นว่าครอบครัวของคุณไม่ค่อยอบอุ่น จำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะคุณเป็น anorexia แต่ว่าคุณก็มีความรู้ความสามารถสำหรับในการเขียนเพลงแล้วก็ร้อง เธอไม่อยากติดอยู่กับนี่จึงตัดสินใจหนีไปทำตามอย่างความฝัน เรียกว่าเป็น coming of age ที่เชื้อเชิญฝันแต่ว่าเวลาเดียวกันก็น่าเศร้า

ตามที่เล่าผ่านเพลงอินดี้ป๊อปจังหวะสนุกสดใส แม้กระนั้นเนื้อเพลงของแต่ละเพลงกลับสื่อถึงความเปล่าเปลี่ยวรวมทั้งสันโดษ ไร้คนเข้าอกรู้เรื่อง หลายๆฉากพวกเราก็จะได้มองเห็นมิตรภาพของสหาย การแอบรัก รวมทั้งความหวังดีที่มอบให้โดยไม่ได้อยากต้องการสิ่งใดตอบแทน

Dhamaka (2021)

ดูหนังออนไลน์ moviehdfree

สมัครสมาชิก ID LINE : @win666

https://musicmp3zone.com/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *