Ant man and the wasp (2019) เต็มเรื่อง ให้ความสำคัญกับพลวัตของครอบครัว โดยสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก ภารกิจในการช่วยเหลือเจเน็ต แวน ไดน์เพิ่มชั้นอารมณ์ให้กับการเล่าเรื่อง ขณะที่ตัวละครต้องต่อสู้กับการเสียสละที่ทำเพื่อสิ่งที่ดีกว่าและความผูกพันที่ยั่งยืนที่เชื่อมโยงครอบครัวเข้าด้วยกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้เจาะลึกมรดกของแฮงค์ พิม ซึ่งแสดงโดยไมเคิล ดักลาส ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ผู้ชาญฉลาดและ Ant-Man ต้นฉบับ ความสัมพันธ์ของแฮงค์กับโฮป ลูกสาวของเขา และเจเน็ต ภรรยาของเขา กลายเป็นประเด็นหลัก โดยให้ความลึกซึ้งกับตัวละครของเขา และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจตลอดทั้งเรื่อง
ความเท่าเทียมกันทางเพศในลัทธิซูเปอร์ฮีโร่: ด้วยการแนะนำโฮป ฟาน ไดน์ในบทเดอะ วอสพ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีส่วนช่วยในเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศที่เพิ่มขึ้นในการเล่าเรื่องในดวงใจ โฮปเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีความสามารถและทรงพลังในแบบของเธอเอง และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นถึงทักษะและเอเจนซี่ของเธอโดยไม่บดบังตัวละครของเธอด้วยทัศนคติแบบเหมารวมหรือความคิดโบราณ
วงดนตรีตลก: นักแสดงสมทบ รวมถึงไมเคิล เปญาในบทหลุยส์และทีมงานของเขา ยังคงให้ความผ่อนคลายในแนวตลก โดยเติมอารมณ์ขันและเสน่ห์ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ เคมีที่เข้ากันของนักแสดงทั้งมวลได้เพิ่มชั้นของความเพลิดเพลิน ทำให้เกิดช่วงเวลาน่าจดจำที่สร้างสมดุลระหว่างฉากแอ็กชันและจังหวะทางอารมณ์ของภาพยนตร์
ตัวละครเอกที่เป็นคู่: “Ant-Man and The Wasp” โดดเด่นด้วยการมีตัวละครเอกเป็นคู่ โดยที่ทั้ง Scott Lang และ Hope van Dyne ต่างก็เป็นจุดเด่นร่วมกัน แนวทางนี้ช่วยให้สามารถสำรวจเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่ที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยเน้นจุดแข็งและมุมมองของตัวละครทั้งสอง และสร้างประสบการณ์การเล่าเรื่องที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
การแสวงหาความสมดุล: musicmp3zone เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้เชื่อมโยงการแสวงหาการค้นพบทางวิทยาศาสตร์เข้ากับความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูง ตัวละครต้องต่อสู้กับผลที่ตามมาจากการกระทำของพวกเขา โดยสำรวจความหมายทางจริยธรรมของการแสวงหาในโลกที่เต็มไปด้วยฮีโร่และผู้ร้าย
การเชื่อมต่อกับ MCU ขนาดใหญ่: ในขณะที่ยังคงการเล่าเรื่องแบบสแตนด์อโลน “Ant-Man and The Wasp” เชื่อมโยงอย่างละเอียดกับจักรวาลภาพยนตร์ Marvel ที่ใหญ่กว่า การอ้างอิงถึงเหตุการณ์และตัวละครก่อนหน้านี้ รวมถึงการเชื่อมโยงกับโครงเรื่อง MCU ที่กว้างขึ้น ให้ความต่อเนื่องและทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการเล่าเรื่องที่ครอบคลุม
บทสรุปและผลกระทบในอนาคต: Ant man and the wasp (2019) เต็มเรื่อง
“Ant-Man and The Wasp” ปิดท้ายด้วยการผสมผสานระหว่างการแก้ปัญหาและคำถามที่ค้างคา ถือเป็นการปูทางสำหรับการพัฒนาในอนาคตในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ทำให้แอนท์-แมนและเดอะ วอสพ์กลายเป็นตัวละครสำคัญเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ชมอยากรู้ว่าเรื่องราวของพวกเขาจะเผยออกมาในภาพยนตร์เรื่องต่อๆ ไปอย่างไร
โดยสรุป “Ant-Man and The Wasp” เป็นส่วนเสริมที่น่ายินดีของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล โดยนำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างอารมณ์ขัน หัวใจ และปรากฏการณ์ซูเปอร์ฮีโร่ การมุ่งเน้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไปที่พลวัตของครอบครัว ตัวละครเอกที่เป็นคู่ และการสำรวจอาณาจักรที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เกมนี้เป็นเกมที่โดดเด่นในโลกที่กว้างใหญ่ของฮีโร่ Marvel
ครั้งคราวการบรรลุผลก่อนหน้าที่ผ่านมาของ Marvel Studios บางครั้งก็อาจจะเป็นดาบสองคม เนื่องจากมันมิได้สร้างเพียงแค่การบรรลุเป้าหมายครั้งยิ่งใหญ่ จนถึงแปลงเป็นพิมพ์เขียวสำคัญที่สตูดิโอหนังทั้งโลกต้องการประพฤติตามแค่นั้น แม้กระนั้นมันยังสร้างสูตรสำเร็จของเฟรนไชส์ซึ่งสามารถคว้าดวงใจสาวกอยู่มือ กระทั่งเมื่อพวกเขาต้องการจะทดลองออกนอกทางดูบ้าง กระแสตอบรับกลับมิได้เป็นไปตามที่คาดหวัง กระทั่งในที่สุดจำต้องยอมย้อนกลับมาสู่วิถีทางเดิม เสมือนที่เกิดขึ้นใน Ant-Man and the Wasp: Quantumania
นี่เป็นเรื่องราวการเสี่ยงภัยครั้งที่ 3 ของ Ant man and the wasp (2019) เต็มเรื่อง ที่ถูกทำให้เป็นตัวละคร Underdog มาตลอดตั้งแต่เปิดตัว แต่ว่าครั้งนี้พวกเขามักใหญ่ใฝ่สูง ด้วยการเลือกให้หนังหัวข้อนี้เป็นฉากเปิดของบทที่ 2 ใน The Multiverse Saga มหากาพย์ชุดใหม่ของจักรวาลมาร์เวล รวมทั้งโยนผู้แสดงที่ถูกเลือกให้เป็นคนร้ายคนสำคัญของเรื่องราวภาพใหญ่มาเป็นคนร้ายหลักของหนังหัวข้อนี้ โน่นเป็น แคง ผู้ชนะ
โดยในภาคนี้ก็ยังคงได้ เพย์ตัน รีด (Peyton Reed) ผู้กำกับจาก 2 ภาคแรกกลับมาดูแลเหมือนเคย แม้กระนั้นในฝั่งของคนเขียนบทมีการเปลี่ยนมือ โดยได้ เจฟฟ์ เลิฟเนสส์ (Jeff Loveness) นักเขียนบทแอนิเมชันซีรีส์สายปั่น ‘Rick and Morty’ ที่โดนจองตัวให้เขียนบท ‘Avengers: The Kang Dynasty’ ในเฟส 6 แล้วเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมด้วยดาราชุดเดิมกลับมาแบบครบๆรวมถึงดาราหนังใหม่ๆและก็ผู้แสดงเซอร์ไพรส์ที่ยังไม่เคยรู้หน้าที่ นอกเหนือจากการที่จะจะต้องไปดูในหนังกันเอาเอง
หนังประเด็นนี้แปลความมิติควอนตั้มออกมาได้ออกจะน่าดึงดูดรวมทั้งมีมิติอยู่พอเหมาะพอควร การนำเอานักแสดงเก่าอย่าง “ดาเรน” ตัวร้ายในภาค1กลับมาใช้ซ้ำได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีพล็อตโฮล กระทั่งขนาดที่ผมมีความรู้สึกว่านี่เค้าเตรียมไว้แต่ก่อนแล้วรึประกาศ อเมซิ่งจริงๆเป็นการเก็บเนื้อหาแล้วก็เซอร์วิสแฟนคลับตามแบบฉบับหนังมาร์เวล
และก็มีซีนที่สก๊อตทุกคนช่วยเหลือกันต่อตัวสก๊อตจริงออกไป ผมรู้สึกชอบใจมากมายๆที่ทุกคนร่วมมือกันอย่างงั้น รวมทั้งเหมาะสมกับความเป็นAnt-Manมากมายๆหนังหัวข้อนี้มีฉากโดยมากในมิติควอนตั้ม ก็เลยจะต้องใช้ซีจีแทบจะทั้งยังเรื่อง ส่วนซีจีก็อยู่ในระดับมาตรฐาน รวมทั้งซีจีในฉากต่อสู้ด้วย ที่ทำเป็นลื่นไหลไม่ขัดข้อง ทำให้ฉากต่อสู้มองได้บันเทิงใจขึ้น
ส่วนตัวละครที่เด่นสุดอาจจะเป็น Cassie บุตรสาวดารานำชายกับ M.O.D.O.K ที่แย่งซีนได้พอสมควร ส่วนในด้านของ Kang จะต้องสารภาพว่า Jonathan Majors เหมาะสมกับบทนี้มากมาย แต่ว่าบทมันไม่ส่งเลย เป็นไม่สมราคาคุยที่ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหนังฉาย บทไม่ส่งถึงกับขนาดทำให้ Kang มองเป็นเพียงแค่ตัวสมทบมากยิ่งกว่าตัวร้ายเสียอีก แต่ว่าดาราเป็นแสดงดีนะ เสียที่บทเนี่ยล่ะที่มองกั๊กมากมายๆกระทั่งโชคร้าย สรุปโดยรวมเลยก็คือ ภาคนี้ค่อนข้างจะปกติ ตอนดูตัวอย่างยังตื่นเต้นมากยิ่งกว่าตอนได้ดูหนังจริง แม้กระนั้นผมก็ยังเห็นว่าหัวข้อนี้ดีมากยิ่งกว่า Thor 4 อยู่ดี อันนั้นเป็นผิดหวังมากมาย
หนังเปิดเฟส 5 มาร์เวลที่มีตัวร้ายเป็น “แคง” ตั้งแต่เปิดตัวในซีรีส์โลกิ แล้วก็คาดว่าจะเป็นจุดเชื่อมเรื่องราวไปต่อในภาคนี้ แต่ว่าพอใช้ได้มองจริงๆแปลงเป็นแอนท์แมนภาคนี้แทบเกิดเรื่องราวคนเดียวๆของตนเองอีกภาคหนึ่งมากยิ่งกว่า เพราะเหตุว่าแคงในเวอร์ชั่นนี้เป็นเพียงแค่อีกร่างที่มิได้เกี่ยวกับตอนสุดท้ายของซีรีส์โลกิที่ค้างไว้เลย โดยมีเอนด์เครดิตอันที่ 2 ที่ไปต่อกับโลกิแค่นั้น ซึ่งคนไหนกันแน่ที่คาดหวังที่ตรงนี้ไว้แบบผมว่าจะได้มองเห็นเรื่องราวของ TVA ในตอนตอนสุดท้ายซีรีส์แบบผมก็ต้องเจอกับความผิดหวังกันไปตามแบบแผนแล้วหนึ่งเรื่อง
เรื่องย่อหนัง ‘Ant-Man and the Wasp’
เรื่องราวของ สก็อตต์ แลง (Paul Rudd) ผู้ซึ่งรับบทบาท Ant-Man ต่อจากบิดาของนางเอก นั่นก็คือ โฮป (Evangeline Lilly) งานนี้ ภารกิจของเขาและก็คุณก็คือการร่วมกันนำเอาแม่ของโฮปกลับมา และก็คุณจะได้เปลี่ยนเป็น เดอะวอสพ์ คู่คิดของแอนท์-แมน
กลับมาจากไหนน่ะหรอ หนังเล่าย้อนอดีตกลับไปถึงตอนก่อนหน้าที่คุณพ่อกับคุณแม่ของโฮปด้วยกันปฏิบัติหน้าที่และก็ด้วยเหตุว่าการหลงไปอยู่ในมิติที่ควอนตัม ทำให้มีเพียงแต่ผู้เป็นบิดาแค่นั้นที่ได้กลับไปอยู่บ้านมาหาคุณ โดยในแบบอย่างปัจจุบันได้เผยปัญหาสำคัญของ Scott Lang (Paul Rudd) ที่ดูเหมือนเขาจะยังคงเสียใจกับเหตุที่เขาจำต้องติดอยู่ในมิติควอนตัมนานยาวนานหลายปี จนถึงมิได้ใช้เวลาร่วมกับ Cassie Lang (Kathryn Newton) บุตรสาวของตัวเอง
ซึ่งการที่เขาได้มาเจอกับ Kang the Conqueror (Jonathan Majors) ผู้ดูแลมิติควอนตัมในคราวนี้จะเปลี่ยนเป็นชนวนสำคัญของเรื่อง เมื่อ Kang ได้ยื่น ‘ข้อแนะนำอะไรบางอย่าง’ ให้กับ Scott เพื่อแลกเปลี่ยนกับการมอบ ‘เวลา’ ที่ Scott เคยสูญเสียไปกลับมา ก่อนแบบอย่างภาพยนตร์จะฉายภาพให้พวกเรามองเห็นถึงฉากแอ็กชันระหว่าง Scott รวมทั้ง Kang ที่ดูเหมือนจะมีความเป็นจริงเป็นจังมากยิ่งกว่า Ant-Man สองภาคก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
สิ่งที่พวกเราคงจะจำเป็นต้องติดตามกันต่อเป็น ‘จุดหมาย’ ของ Kang ในคราวนี้เป็นยังไง และก็เพราะเหตุใด Scott ถึงเปลี่ยนเป็นกุญแจสำคัญในภารกิจคราวนี้ รวมทั้งใจความสำคัญเกี่ยวกับ ‘เวลา’ ที่ Kang กล่าวถึง ก็น่าจะเป็นการต่อยอดเรื่องราวของนักแสดง He Who Remains ที่ถูกปูเอาไว้ตั้งแต่ซีรีส์ Loki (2021) ซึ่งเรื่องราวในคราวนี้จะมีผลต่อภาพรวมของจักรวาล MCU ถัดไปเช่นไร และเรื่องราวความเกี่ยวพันระหว่าง Scott แล้วก็ Cassie ที่น่าจะเป็นปมสำคัญของเรื่อง
เรื่องราวของภาค ‘Quantumania’ นี้จะเล่าของ สก็อต แลง/แอนท์-แมน (Paul Rudd) ภายหลังที่เขาติดในมิติควอนตัม 5 ปี แล้วก็หนีไปเป็น Avengers จนถึงแปลงเป็นคนมีชื่อเสียง แต่งหนังสือขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ไปไหนผู้ใดกันแน่ก็รู้จัก แม้กระนั้นจุดหมายสูงสุดของเขาก็คือ
การได้ใช้เวลาอยู่กับบุตรสาว แคสซี แลง (Kathryn Newton) สาวน้อยหัวเนิร์ดวัย 18 ปีที่ห้าวด่องๆจนกระทั่งติดตะรางมาแล้วหลายครา ขณะนี้พวกเขาแปลงเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในครอบครัวของ 2 ตายาย ดร.แฮงก์ พิม (Michael Douglas), เจเน็ต แวน ถางน์ (Michelle Pfeiffer) และก็ โฮป แวน ถางน์/เดอะ วอสพ์ (Evangeline Lilly) ที่แปลงบริษัท Pym Tech ให้เปลี่ยนเป็นมูลนิธิการบุญที่นำเอาเทคโนโลยีอนุภาคพิมมาช่วยเหลือผู้คน
แต่ Ant-Man ก็ยังคงเป็น Ant-Man ในภาคนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ที่ผลิตผลรวมทั้งแนวทางคล้ายเดิม เพิ่มเป็นแนวทางเรื่องที่ราวกับจะเจะาควรเข้มข้นอย่างเป็นมีสาระเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากหนังรับหน้าที่สำหรับเพื่อการเกิดเรื่องปูทางและก็เปิดตัวนักแสดงคนร้ายหลักตัวใหม่ของจักรวาล อย่าง แคง ผู้ชนะ ที่จะต้องเห็นด้วยแบบง่ายๆว่า โทนของหนังค่อนข้างจะดียิ่งขึ้น แม้กระนั้นก็ยังเต็มไปด้วยจุดบกพร่องตามทางไปตลอดทาง
การเดินเรื่องของ Quantumania เป็นไปอย่างเร็ว
จนกระทั่งพวกเรามีความคิดว่ามันเร็วเหลือเกินด้วย บางครั้งก็อาจจะเป็นเนื่องจากว่าตัวหนังต้องการจะเล่าราวหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความชมรมระหว่างผู้แสดง ทั้งสองบิดาลูก สก็อตต์ แล้วก็แคสซี แลง และก็ครอบครัวพิม ที่มีหัวข้อประเด็นการสูญเสียในตอนที่ใช้กับครอบครัว หรือจะเป็นเรื่องการเปิดตัว แคง ผู้ชนะ ที่จำเป็นต้องปูภาพให้มองเห็นถึงความน่าสยองเหมาะสมกับการเป็นบอสใหญ่ของ Saga ไหนจะมีเรื่องมีราวราวของมิติควอนตัม ที่แตกย่อยไปอีกทั้งการเปิดโลกมิติใหม่ที่ไม่เคยมองเห็น และก็ปัญหาความไม่ถูกกันของผู้แสดงในที่ที่นั้น
เมื่อมันมีเรื่องมีราวราวที่ต้องการจะเล่าเยอะแยะขนาดนี้ ด้วยในขณะที่จำกัด ทำให้ตัวหนังไม่สามารถที่จะให้เวลากับทุกอย่างได้อย่างมาก พวกเขาเลือกที่จะสัมผัสให้พวกเราทราบดีว่ามันมีอยู่ แต่ว่าก็ไม่มากพอให้พวกเรารู้สึกเชื่อฟัง หรือมีอารมณ์ร่วมกับหลักสำคัญที่หนังต้องการจะติดต่อสื่อสารได้สักเท่าไหร่ การเล่าเรื่องมันก็เลยแล้งจนกระทั่งน่าตกใจ
Ant man and the wasp (2019) เต็มเรื่อง เริ่มแรกจำต้องขอบอกก่อนว่า ภาพยนตร์ MCU เฟส 4 เป็นอะไรที่ทำให้จักรวาล Marvel นั้นถูกตัดทอนความไฮป์ของตนไปพอใช้เช่นกัน เมื่อเทียบกับตอนปิดเฟส 3 ซึ่งทุกคนไฮป์อย่างมาก แม้ว่าจะมีหลายต่อหลายเรื่องอีกทั้งจากหนังรวมทั้งซีรีส์ซึ่งทำเป็นดี แม้กระนั้นในรูปภาพรวมนั้นบางทีอาจพูดได้ว่าทั้งยังเฟสไม่มีอะไรพีคเลย มันมองเล่าหลายประเภท ไดเรคชั่นสะเปะสะปะ โอเคล่ะว่ามันอาจจะเป็นตอนปูพื้นสู่เรื่องราวขั้นต่อไปแม้กระนั้นขั้นต่ำๆภาพยนตร์ที่ดีก็ควรจะบันเทิงใจได้ด้วยตัวของมันเอง เฟส 4 เป็นช่วงๆที่ MCU มาตรฐานแกว่งไกวกว่าทุกเฟสก่อนหน้าที่ผ่านมา ก่อนปิดเฟสไปด้วย Black Panther 2 ที่ก็ทำรายได้น้อยกว่าภาคแรกอยู่หลายเท่า
การผลัดไม้ของนักเขียนบทนั้นมีผลต่อเรื่องราวและก็โทนของหนังอย่างชัดเจนๆเลยครับผม ส่วนหนึ่งส่วนใดก็น่าจะเป็นด้วยเหตุว่าเพื่อสอดคล้องกับธีมความเป็นมัลติเวิร์สด้วยล่ะ โชคดีที่ในหนัง Ant-Man และก็บรรดาหนัง Avengers ทั้งหลายแหล่ได้ปูเรื่องชี้แนะ อนุภาคพิม (Pym Particles)
และก็มิติควอนตัม (Quantum Realm) ให้รู้จักไว้เยอะพอควรแล้ว ผลก็คือ นอกเหนือจากในภาคนี้จะตำเนินเรื่องไปได้เลยอย่างเร็ว กระชับ ไม่ต้องปูซ้ำให้เสียเวล่ำเวลาแล้ว ตัวหนังก็เสมือนครึ่งหนึ่งๆบังคับให้เปลี่ยนแปลงธีมจากรสหนังรอมคอมครอบครัวผสมโจรกรรมที่เกิดขึ้นใน 2 ภาคแรก แปลงเป็นหนังแอ็กชันเสี่ยงภัยที่มีความแฟนตาซีจัดๆกันไปเลย
ในหนังเรื่องลำดับที่สองของผู้คนมด รายละเอียดของหนังนั้นเชื่อมเข้าได้อีกทั้งกับหนังภาคแรก รวมทั้ง Civil War รวมถึงรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นใน Avengers: infinity War ได้พอดีว่า
เนื่องจากว่าผลพวงจากความประพฤติปฏิบัติในหนังของกัปตันอเมริกา
ทำให้สก็อทท์ แลงไปร่วมสู้ธานอสกับเหล่าฮีโรทั้งหลายแหล่ในหนังรวมดาวเรื่องที่ว่ามิได้ แล้วก็กับการที่เขาสามารถเดินทางไปในมิติควอนตัมแล้วกลับออกมาเสร็จ ทำให้แฮงค์ พิมม์ และก็บุตรสาวโฮป แวน ไดน์ มีหวังว่าจะหาทางช่วยเจเน็ทเมียของแฮงค์-แม่ของโฮปออกมาจากตรงนั้นได้
ตัวร้ายประจำภาคเป็นจุดด้วยสำหรับผมนะครับ เมื่อเอา แคง ไปเปรียบเทียบกับตัวร้ายดีๆอย่าง ธานอส โลกิ หรือคิลมองเกอร์ ผมมีความรู้สึกว่าแคงขาดเสน่ห์และก็แรงบันดาลใจสำหรับเพื่อการทำเรื่องเหลวแหลกๆเป็นเพียงแค่มีคำพยากรณ์ว่าจะเป็นผู้กำจัดทุกมัลติเวิร์ส ก็คือจะต้องปฏิบัติตามแล้วหรอ แม้กระนั้นขั้นต่ำก็ยังมีความน่าค้นหาในเรื่องของภูมิหลังอยู่บ้าง รวมทั้งถัดมาก็คือความตื้นของบทหนัง ซึ่งหนังมาร์เวลหลายๆเรื่องก็เป็นแบบงี้มากมาย เลยทำให้ข้อความสำคัญที่หนังพากเพียรจะสื่อที่คลุมเครือไปด้วยนะครับ
อย่างไรก็แล้วแต่ รีวิวนี้เป็นเพียงแต่ความรู้สึกส่วนตัวของผมเพียงแค่นั้น ทางที่ดีเป็นทุกคนควรจะไปดูด้วยตาตนเองเพราะเหตุว่ามนุษย์เรามีรสนิยมสำหรับในการดูหนังที่ไม่เหมือนกัน ผมรู้สึกเฉยๆแม้กระนั้นคุณอาจจะถูกใจมากมายๆก็ได้ แม้กระนั้นส่วนตัวผมถูกใจ 2 ภาคแรกมากยิ่งกว่า บางทีอาจเพราะเหตุว่ามุ่งหวังไว้มากเลยแอบผิดหวังนิดหน่อย
อย่างลำดับที่สองที่ผิดหวังเป็น แคงเวอร์ชั่นนี้ไม่ใช่เวอร์ชั่นสายคิดแผนแบบในโลกิ ซึ่งตัวความรู้ความเข้าใจของแคงเป็นการล่วงรู้ทุกขณะ อยู่ในทุกระยะเวลา มีเทคโนโลยีล้ำๆเป็นวัสดุ แต่ว่าในภาคนี้เป็นสายบ้าพลัง ความรู้ความเข้าใจสำหรับในการล่วงรู้ไม่มี อันนี้รู้เรื่องได้ไพเราะเพราะพริ้งในเรื่องชี้แจงไว้ว่าเป็นแคงเวอร์ชั่นที่ติดในมิติควอนตัมที่ไม่มียุคสมัย ทำให้ความรู้ความเข้าใจล่วงรู้สิ่งต่างๆแบบในโลกิถูกเอาออกไปเลย ไปย้ำที่พลังในชุดที่ประจำตัวแคง
ซึ่งโอเคว่ามีฉากโชว์ว่าเกือบจะทำอะไรก็ได้ในโลกนี้ แต่ว่าก็มีข้อครหามีความขัดแย้งในตนเองอยู่ว่า เพราะเหตุไรจำเป็นต้องพึ่งอนุภาคพิมขนาดนั้น ทั้งที่ตนเองกุมอำนาจในมิตินี้ได้ขนาดนี้แล้ว รวมทั้งฉากการต่อสู้ท้ายที่สุดที่แปลงเป็นว่าแคงตัวนี้จริงๆก็มิได้เก่งอะไรมากมาย เรียกว่าความร้ายกาจเล่ห์กล การวางเป้าหมายอะไรก็ไม่มี ความสามารถเกี่ยวกับพลังก็แค่ยิงแสงสว่าง สร้างบาเรียได้ เอาจริงเอาจังๆหากอยู่ในโลกธรรมดาก็อาจโดนเหล่าอเวนพบร์ตบดื้นได้อย่างง่ายๆ
เป็นภาคต่อที่อุตสาหะเล่าด้วยการย้อนอดีตในสิ่งจำเป็นต่อการเล่าในภาคนี้ ทำให้แม้ว่าจะจำภาคเก่าไม่ค่อยได้ หรือดูหนังอะเวนพบร์สมาทุกเรื่องทุกภาค ก็ยังจะต่อติดได้ไม่ต้องมีปัญหาสำหรับการรื้อฟื้นความจำ