โรงงานผลิตครีมกันแดด
โรงงานผลิตครีมกันแดด พวกเราเป็นโรงงานรับผลิต และสร้างแบรนด์สินค้ากันแดด พร้อมผู้ชำนาญที่พร้อมให้คำแนะนำเรื่องสูตรการสร้างและจัดทำขึ้นครีมกันแดด รวมถึงสารสกัดต่างๆ โดยนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางโดยตรง นำมาซึ่งการทำให้สูตรครีมกันแดด ที่ศึกษาค้นคว้าปรับปรุงและผลิตจากเรานั้น มีความต่าง ผิดแผกแตกต่างในท้องตลาดทั่วๆไป
แสง UV ต้นเหตุของความเหี่ยวย่นและเรื่องที่อาจจะอันตรายมะเร็ง
คุณหมอยาซาวะ แพทย์ประจำคลีนิคเสริมความงาม AOHAL CLINIC ในโตเกียว พูดว่าแสง UV เป็นศัตรูตัวฉกาจของผิวหนัง รับผลิตครีมกันแดด เป็นต้นเหตุของฝ้า และยังทำให้ผิว หรือรอยแดงมีลักษณะอาการห่วยแตกลงด้วย แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดจากแสง UV คือเรื่องที่ไม่คาดฝันสำหรับการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง
โดยบางคนคงจะจะมีความรู้สึกว่า เด็กที่อายุไม่มากๆ ยังไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลกับแสง UV แต่มีผลศึกษาค้นคว้าสุดช็อกที่พูดว่า “ตั้งแต่กำเนิดจนกระทั่งอายุ 10 ขวบ ยิ่งได้รับแสง UV เยอะมากเท่าไหร่ ก็เพิ่งเหตุที่ไม่คาดฝันสำหรับเพื่อการเป็นมะเร็งผิวหนังในภายภาคหน้าเพิ่มมากขึ้นแค่นั้น”ด้วยเหตุนี้เพื่อนๆคนใดกันที่มีเด็กเล็กอยู่ข้างตัวก็อย่าเพลินเอาใจใส่ และทาครีมกันแดดที่เด็กๆก็สามารถทาได้ให้หมวดเขาด้วยนะ
4 เหตุผลที่ควรจะสร้างยี่ห้อครีมกันแดด คุณจะมีฐานะปังไวเว่อร์
หลาย ท่านอาจจะจะมองหาธุรกิจเสริมเพื่อที่จะเสริมสร้างค่าตอบแทน และปั้นฝันของตนเองให้เป็นว่าที่ “อายุน้อยร้อยล้าน” ซึ่งการสร้างครีม ทำยี่ห้อครีม สร้างแบรนด์ครีม จากโรงงานรับผลิตครีมนั้น ก็ยังเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่มีการโตขึ้นของราคาตลาดอย่างสม่ำเสมอ จึงนำมาซึ่งการทำให้หลายๆต่อคนไม่ใช่น้อยมุ่งหน้าไปสู่ธุรกิจนี้และโตขึ้นเป็น “อายุเล็กน้อยร้อยล้าน” กันไปหลายๆราย แต่ล่าสุดหลายๆ คนอาจจะกลุ้มอกกลุ้มใจกันไม่น้อย ว่าจะผลิตครีมตัวไหน ถึงจะมั่งคั่งร่ำรวยปังไวเว่อร์ เป็น อายุน้อยร้อยล้านได้กันแน่ วันนี้พรีมา แคร์ ขอบอก 4 สาเหตุผลที่ควรจะหันมาสร้างแบรนด์ผลิตครีมกันแดดกันจ้ะ
1. ทุกท่านทราบกันดีว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มี 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก และ ร้อนที่สุด พวกเราต้องเจอกับแสงแดดที่มีองค์ประกอบของรังสี UV จำนวนมากเต็มไปหมด จากสถิติของกรมอุตุนิยมวิทยา ตั้งแต่ปี 2494 ถึง ปี 2558 ก็พบว่า อากาศนั้นร้อนเพิ่มอีกขึ้นทุกปี ซึ่งอุณหภูมิสูงสุดของประเทศเรา คือ 42.9 องศาเซลเซียส โอววววว ร้อนขนาดนี้ มีความรู้สึกว่ารังสี UV จะมากขนาดไหนกันค่ะ จะทำร้ายผิวพวกเราขนาดไหนกันนี่
2. ภัยจากแสงแดดที่คนไม่ค่อยทราบกันแสงแดดแล้วก็มีรังสีหลาย อย่างร่วมกัน ที่เป็นภัยตัวร้ายกับผิวเรา คือ รังสี UV-A และ รังสี UV-B ค่ะ ซึ่งรังสีตัวร้ายพวกนี้สามารถทะลุทะลวงวิ่งไปสู่ผิวพวกเราได้มาโดยตลอด ไม่ว่าพวกเราจะออกไปเดินนกลางแดดจัดๆ, หลบแดดอยู่ภายในร่มเงาของมุมตึก หรือจะกางร่มกันยูวีแล้วเดินกลางแดด ก็ไม่สามารถจะหลีกหนีจากหมู่มันได้ค่ะ ซึ่งรังสีกลุ่มนี้เองจะเป็นสาเหตุหนึ่งของข้อขัดข้องริ้วรอย และ อุปสรรคผิวหม่นหมองคล้ำ ฝ้า กระค่ะ คดังนี้ถึงจะใช้ครีมเพื่อจะผิวแจ้งชัดใส ครีมช่วยชะลอริ้วรอยขั้นเทพแบรนด์ไป ถ้าไม่ได้ครีมกันแดดเป็นเครื่องช่วย ก็ไม่ไหวจะเคลียร์นะคะ
3. มูลค่าและราคาตลาดเครื่องสำอางของประเทศไทยมีราคาสูงถึง 81,000 ล้านบาท โดยในส่วนของครีมบำรุงผิวนั้นเป็นสัดส่วนถึง 26% หรือมูลค่าและราคา 26,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5% จากปี2558 ทีนี้มาชมมูลค่าและราคาตลาดครีมกันแดดในประเทศกันค่ะ ครีมกันแดดมีส่วนแบ่งการตลาดจาก 26,000 บาทล้าน เป็นสัดส่วนประมาณ 16% หรือ 4,000 ล้านบาทค่ะ เห็นแล้วใช่มั้ยคะ ว่าเรายังมีวิถีทางในการสร้างแบรนด์ครีมกันแดดให้เติบโตอย่างเฉิดฉายในตลาดได้อีกเยอะเลยจ้ะ เริ่มต้นก่อนยึดครองตลาดก่อนจ้ะ
4. จะมีความเห็นว่ามียี่ห้อเมืองนอกหลากหลายยี่ห้อ ที่พาเหรดกันเข้ามาขายครีมกันแดดในประเทศเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อมองในตลาดแล้วครีมกันแดดจะเป็นยี่ห้อจากต่างประเทศ 60-70% ในขณะเดียวกันจะเป็นครีมกันแดดที่ผลิตภายในประเทศ 30-40% และมีลัษณะทิศทางเพิ่มอีกเพิ่มมากขึ้นในทุกปี ทั้งนี้เพราะหน้าตาผิวอันเจาะจง และ ลักษณะอากาศอันร้อน ร้อนมาก ถึง ร้อนเยอะที่สุดของคนไทยนี่แหล่ะค่ะ ส่งผลให้มีความต้องการอันหลากหลายของครีมกันแดดในฝันที่ต่างออกไปจากครีมกันแดดที่ผลิตจากต่างแดน ซึ่งจำนวนมากเป็นอากาศแห้งและหนาวเย็นมาก ถึงมากที่สุด พูดได้ว่า ดิ่งกันข้ามกันทีเดียว ด้วยเหตุฉะนี้เมื่อครีมกันแดดที่ผลิตในประเทศไทยเกิดขึ้น ผู้ซื้อภายในประเทศ และ แถบรอบๆ เอเชียนี้ ก็พร้อมที่จะหันมาใช้ครีมกันแดดที่ผลิตโดยโรงงานผลิตครีมกันแดดที่เข้าใจถึงสภาพผิว และ สภาพอากาศบ้านพวกเราอย่างเร็วทันใจค่ะ
ถ้าทากันแดดแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ร่ม หมวก ใช่หรือไม่?
ถึงแม้ว่าพวกเราจะทากันแดดที่หน้า แต่พวกเราก็มิได้ทาไปกระทั่งหนังศีรษะ หรือข้างหลังใบหู ด้วยเหตุฉะนี้หากเป็นไปได้ พวกเราควรที่จะใช้หมวกหรือร่ม สำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันตัวเราเองจากแสง UV และช่วงซื้อร่ม เราก็ควรกางชมว่าร่มมีแสงเล็ดลอดเข้ามาหรือเปล่า หรือเลือกใช้ร่มแบบ UV CUT ไปเลยก็จะสะดวกและสบายกว่า
หมัดต่อหมัด ครีมกันแดด CHEMICAL กับ PHYSICAL คัดสรรค์อะไรดี
หลายท่านอาจจะรู้กันดีว่า แสงแดดเป็นต้นเหตุหลักที่เป็นตัววิธีการทำร้ายผิวของเรา การคัดเลือกครีมกันแดดจึงถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่เล็กน้อยไปกว่าการเลือกครีมบำรุงจำพวกอื่นเลย แต่คุณทราบมั๊ยคะว่า การเลือกเฟ้นครีมกันแดด นอกเหนือจากนี้จะตรวจตราค่า SPF และ PA ให้สมควรแล้วนั้น สิ่งที่พวกเราควรจะให้ความเอาใจใส่คือ องค์ประกอบของสารกันแดด ที่หยิบเป็นองค์ประกอบประเด็นในครีมกันแดดเพื่อให้ได้ครีมกันแดดที่ มีคุณภาพในการป้องกันผิวเราจากแสงแดดนั่นเอง โดยธรรมดา สารคุ้มครองป้องกันแสงแดดที่ใช้ในครีมกันแดดนั้น จะแยกประเภทออกเป็น 2 ประเภท ฉะนั้น
1. Chemical Sunscreen
เป็นสารที่มีส่วนที่นำมาคลุกเคล้า ปฏิบัติภารกิจสำหรับเพื่อการคุ้มครองปกป้องผิวจากแสงแดด โดยการชมดซับพลังงานของแสงแดดไว้ ก่อนที่แสงแดดจะผ่านไปยังผิวหนัง เช่น PABA และ cinnamate ดูดซับเฉพาะเจาะจง UVB, Benzophenone ชมดซับได้ทั้ง UVB และ UVA เล็กน้อย, Dibenzoylmethane ชมดซับได้เฉพาะ UVA แค่นั้น
ส่วนดี
– สามารถดูดซับรังสี UV จากแสงแดดได้โดยไม่ทำให้แสงแดดทำร้ายผิว
– มีเนื้อบางเบากว่า ไม่ขาววอกและสามารถเกลี่ยบนผิวหนังได้ง่ายดายยิ่งกว่า เหมาะกับวิธีใช้ประจำประจำวัน
– สามารถซึมไปสู่ผิวได้ดิบได้ดี
ข้อบกพร่อง
– จำเป็นจะต้องรอขณะ 20 นาที ก่อนออกแดด
– วิธีใช้ครีมกันแดดที่มีคุณค่า SPF สูง คงจะก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีผิวแพ้ง่าย
– จำเป็นต้องทาซ้ำบ่อยครั้งๆ
– เพื่อคนผิวมัน อาจจะทำให้เกิดการอุดตัน และเป็นสิวได้
2. Physical Sunscreen
แล้วก็มีสารที่มีคุณสมบัติสำหรับในการสะท้อนแสงที่ตกกระทบกับผิวหนัง ทั่วไปที่ใช้คือ Titanium Dioxide(TiO2) และ Zinc Oxide(ZnO)
ส่วนดี
– สามารถป้องกันผิว โดยสะท้อนรังสี UV จากแสงแดด
– ทาแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่ต้องรอ สามารถคุ้มครองผิวได้ในทันที
– ไม่ส่งผลให้เกิดการระคายเคือง เหมาะกับผิวแพ้ไม่ยาก
ข้อผิดพลาด
– จำเป็นควรต้องทาซ้ำๆ หากมีกิจกรรมกลางแจ้ง ที่มีน้ำ หรือเหงื่อ
-ส่งผลให้ผิวชมขาวเยอะเกินไป ด้วยเหตุว่าสารจะเคลือบบนผิวหนังอันดับบน เพื่อที่จะรอแสงกระทบ จึงคงจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวคล้ำ
– ตัวเนื้อครีม มีความหนากว่า และไม่ค่อยขนาดที่เล็กมาก เกลี่ยยาก หรือใช้เวลานาน
สำหรับในท้องตลาด โดยมากจะเป็นครีมกันแดดประเภท Chemical-Physical Sunscreen
เนื่องมาจากเป็นการเสริมทั้งข้อดี และลดจุดอ่อนของสารกันแดดทั้ง 2 ชนิด ดังเช่นว่า การลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง จาก Chemical และ ลดความขาวเมื่อทาครีม จาก Physical โดยการเป็นการเสริมความสามารถสำหรับในการคุ้มครองป้องกันแสงแดดด้วยกันนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดียังมีข้อเสนอแนะ สำหรับใครที่มีข้อขัดแย้ง ผิวแพ้ง่าย ว่าควรใช้ครีมกันแดดชนิด Physical Sunscreen ซึ่งเดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมของสารกันแดด และขั้นตอนผลิตครีมกันแดดที่ปรับปรุงเพิ่มอีกมากยิ่งกว่าเดิมจนสามารถ ปรับปรุงเนื้อครีมอย่างถี่ถ้วน เกลี่ยง่ายมากยิ่งขึ้นและเหมาะกับทาบนหน้าตาได้อย่างเนียน เป็นธรรมชาติเพิ่มขึ้น ที่สำคัญจำเป็นต้องสร้างขึ้นมาจากโรงงานที่มีคุณภาพ มีเกณฑ์ เพื่อที่จะให้มั่นใจว่า ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดิ่งตามฉลากแน่ๆ
เป็นยังไงคะ ถึงที่นี่ให้ความสนใจสร้างยี่ห้อครีมกันแดดของตนเองบ้างหรือยัง ปรึกษาได้เลย พรีมา แคร์พร้อมให้คำแนะนำจ้ะ